ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน รู้ช้าเกินไป ไม่ดีแน่นอน!
ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน
ต่อมไทรอยด์ เป็นต่อมไร้ท่อที่ทำงานภายใต้ต่อมใต้สมอง (Pituitary Gland) และสมองส่วนที่เรียกว่า “ไฮโปธาลามัส” (Hypothalamus) ที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะอื่นๆ ด้วย เช่น ต่อมหมวกไต รังไข่ และอัณฑะ และยังมีความเชื่อมโยงกับอารมณ์และจิตใจ ดังนั้น การทำงานของต่อมไทรอยด์ รวมทั้งโรคหรือภาวะผิดปกติต่างๆ ของต่อมไทรอยด์ เช่น ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน จึงสัมพันธ์กับการทำงาน และการเกิดโรคของระบบอวัยวะต่างๆ รวมถึงอารมณ์และจิตใจ
ต่อมไทรอยด์ ผลิตฮอร์โมนสำคัญ 3 ชนิด คือ
- ไทรอกซีน หรือ ที4 (Thyroxine, T4)
- ไตรไอโอโดไธโรนีน หรือ ที3 (Triiodothyronine, T3)
- แคลซิโทนิน (Calcitonin)
โดยฮอร์โมน T4 และฮอร์โมน T3 มีหน้าที่สำคัญมากต่อการควบคุมการใช้พลังงานจากอาหาร และออกซิเจน ซึ่งภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน เป็นโรคที่ฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH) ถ้าตรวจเลือดแล้ว พบว่า TSH ปกติหรือ 0.4-4.2 mIU/L. ก็จะทราบได้ว่าไม่ได้เป็นโรคภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน แต่ถ้าสูงมากกว่าหรือเท่ากับ 25 mIU/L จะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมนได้ จึงต้องมีการตรวจยืนยันระดับ TSH และ T4 หรือ Free T4 ร่วมด้วย หากพบว่ามีความผิดปกติจริงควรรับการรักษาทันที
ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน (Hypothyroidism)
เป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ได้น้อย หรือไม่เพียงพอต่อการนำไปใช้งานของร่างกายที่จะไปสนับสนุนระบบเผาผลาญพลังงานภายในเซลล์และเนื้อเยื่อ ส่งผลให้ระบบสมองและการประมวลความคิดทำงานผิดปกติ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุได้หลายอาการ และที่พบได้ทั่วไปจากการเกิดภาวะนี้
ใครมีความเสี่ยงที่เป็นโรค (สาเหตุ)
- เคยมีปัญหาเกี่ยวกับไทรอยด์มาก่อน เช่น คอพอก
- ได้รับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาต่อมไทรอยด์
- ได้รับการฉายรังสีรักษาต่อมไทรอยด์คอหรือหน้าอก หรือโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ผู้ที่มีเนื้องอกต่อมใต้สมอง หรือเกิดความเสียหายหรือความผิดปกติในส่วนสมองไฮโพทาลามัส (สมองส่วนหน้า) ทำให้ไม่สามารถผลิตฮอร์โมน TRH ได้เพียงพอ ซึ่งฮอร์โมนนี้ส่งผลกระทบต่อการปล่อย TSH จากต่อมใต้สมองมีประวัติครอบครัวเป็นโรคไทรอยด์
ตั้งครรภ์ใน 6 เดือนที่ผ่านมา
- กลุ่มอาการเทอร์เนอร์ โรคทางพันธุกรรมที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิง
- ในเด็กจะเป็นภาวะการขาดไอโอดีนตั้งแต่กำเนิดหรือระหว่างที่มารดาตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร และปัญหาด้านการเจริญเติบช้าของต่อมไทรอยด์ในเด็ก
- มีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้แก่
- โรคที่ทำให้ตาและปากแห้ง
- ภาวะที่เกิดจากการขาดวิตามินบี 12
- โรคเบาหวานประเภท 1
- โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE)
- โรคไขข้ออักเสบ (Rheumatoid Arthritis)
- อาการที่สังเกตได้
- เกิดอาการขาดความกระปรี้กระเปร่า กิริยาการกระทำต่างๆ ที่เชื่องช้า คิดช้า เป็นต้น
- ความจำและสมาธิสั้น
- ปวดเมื่อยเรื้องรัง หรือเป็นตะคริวง่าย
- พูดด้วยเสียงแหบแห้ง หูตึง ชาปลายนิ้วมือ
- ผมร่วงผิดปกติ ผิวหนังแห้งหยาบ มีอาการคัน
- อวัยวะภายในที่ทำงานได้ไม่เต็มที่ เช่น ลำไส้ ในบางรายจึงเกิดอาการท้องผูก
- มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือน้ำหนักลดลงอย่างผิดปกติหรือหาสาเหตุไม่ได้
- ไม่สามารถอยู่ในที่มีอุณหภูมิต่ำหรืออากาศหนาวได้นาน เนื่องจากการทำงานของระบบเผาผลาญพลังงานไม่สามารถทำให้เกิดการผลิตความอบอุ่นให้ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจหมดสติได้
- เกิดอารมณ์ที่แปรปรวนไปทางภาวะซึมเศร้า
- สมรรถภาพทางเพศเสื่อม
- เกิดภาวะซีด
- เหงื่อออกน้อย หรือไม่ออกเลย แม้จะอยู่ในช่วงอากาศร้อน
- อ้วน บวม ที่ใบหน้า รอบดวงตา ลำตัว แขน มือ ขา และเท้า รวมถึงอาการปวดข้อสาเหตุ
ความเสี่ยงแทรกซ้อน
- โรคคอพอก: เป็นผลกระทบเมื่อปล่อยให้เกิดภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมนที่ต่อมไทรอยด์ใหญ่ขึ้น ส่งผลให้ลำคอขยายใหญ่ที่จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ความลำบากในการกลืนอาหารและการหายใจ
- โรคไขมันในเลือดสูง: ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน จะส่งผลให้ระดับไขมัน LDL ในเลือดหรือคลอเลสเตอรอลขึ้นสูง
- ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ: จากผลของโรคไขมันในเลือดสูง ที่ทำให้คลอเลสเตอรอลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น จะส่งผลให้เป็นโรคหัวใจโต ในขั้นรุนแรงจะส่งผลต่อระบบหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจวายได้
- ปัญหาด้านจิตใจ: เกิดอาการซึมเศร้า และความรู้สึกที่แปรปรวน
- เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หรือเป็นหมัน
- เกิดการพัฒนาช้าหรือพิการ ในเด็กแรกเกิด
- เกิดภาวะ Myxedema Coma* ที่มีอันตรายถึงชีวิต ในกรณี ภาวะขาดไทรอยด์เป็นเวลานานโดยไม่ได้รักษา โดยมีอาการหลักๆ คือ
- หัวใจเต้นช้า
- ความดันโลหิตต่ำ
- อุณหภูมิร่างกายต่ำ ทนหนาวไม่ได้
- ง่วงตลอดเวลา ไม่กระปรี้กระเปร่า
- เหม่อลอย ไม่มีสติและสมาธิในการใช้ชีวิตประจำวัน
- อาการซึมเศร้า
โดยอาการอาจจจะมีความเสี่ยงแทรกอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน ที่อาจจะรุนแรงหมดสติหรือไหลตายได้ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่เสี่ยงจากอาการดังกล่าว จึงจำเป็นต้องได้รับการตรวจเลือดเพื่อหาระดับ TSH และ T4 หรือ Free T4 เพื่อทำการวินิจฉัยให้ชัดเจนต่อไป
ติดตามบทความ ข่าวสารเพิ่มเติม : beadseekers.com